Beautyinside.in.TH

“ความสวยเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง❤️”
RSS icon Email icon
  • ฉีดไขมันหน้าผาก เสริมหน้าผากให้ดูมั่นใจ สวยมีโหงวเฮ้ง

    Posted on October 3rd, 2022 beauty No comments

    หน้าผากเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า ที่เป็นจุดเด่นหรือจุดด้อยของคนทั่วไป ถ้ามีหน้าผากที่ได้รูปสวยมีมุมที่มองแล้วสวยมีโหงวเฮ้ง เจ้าของก็เกิดความมั่นใจ ในใบหน้าของตนเอง แต่ในความเป็นจริงบางครั้งหน้าผากก็เกิดปัญหาได้ อย่างเช่นหน้าผากย่นมีริ้วรอยบนหน้าผาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะพบได้เมื่อมีอายุมากขึ้น หรือมีปัจจัยภายนอกบางอย่างกระตุ้นให้หน้าผากมีรอยเหี่ยวย่นที่ดูแล้วลึกกว่าปกติของคนทั่วไป ที่มีผลต่อความมั่นใจ ในการที่มีหน้าผากย่นก่อนวัยอันควร 

    เมื่อมีอายุมากขึ้นรอยเหี่ยวย่นก็จะปรากฏตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยเหตุที่เซลล์ในร่างกายของเรา ค่อย ๆ เสื่อมลง สารที่เป็นธรรมชาติต่าง ๆ ที่ทำให้เรามีผิวพรรณที่เต่งตึง อย่างคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ในร่างกายก็จะมีการผลิตที่ลดลงหรือจะมีการสร้างที่มีปริมาณน้อยลง จึงทำให้เกิดริ้วรอยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก 

    ในการดูแลไม่ให้หน้าผากย่นนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตนเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนหน้าผาก หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพในการลดริ้วรอย หรือการรักษาด้วยขั้นตอนทางการแพทย์ ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน  

    รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นหน้าผากด้วยการฉีดไขมัน

    ในโลกยุคปัจจุบันนี้ด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางการแพทย์ จึงทำให้การแก้ไขปัญหาหน้าผากเหี่ยวย่น  หรือปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ตามร่างกายได้รับการแก้ไขด้วยเทคนิคทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ และเกิดผลข้างเคียงที่น้อยมากหรือไม่มีเลยก็ได้ การรักษาถ้ามีปัญหาไม่มากก็อาจจะเริ่มต้นการรักษาด้วยการขัดผิว (Resurfacing) ซึ่งเป็นการขัดเอาเซลล์ผิวเก่าออกแล้วสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวเนียนเรียบ ซึ่งการขัดผิวนั้นก็มีหลากหลายวิธีและต้องใช้ครีมที่มีการผสมสารผลัดเซลล์ผิวร่วมด้วย ซึ่งสามารถแก้ไขริ้วรอยหน้าผากย่นที่ไม่ลึกมากได้ดีพอสมควร

    การฉีดไขมัน (Fat Grafting) 

    การฉีดไขมัน (Fat Grafting)  เป็นการแก้ปัญหารอยย่นบนหน้าผากด้วยการนำไขมันของคนไข้มาใช้กับคนไข้ ซึ่งลดปัญหาการเกิดผลข้างเคียงได้ดี และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ในการฉีดไขมันเพื่อลดรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากนั้นต้อง ให้ศัลยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ ต้องมีการคำนวณ ในการใช้มันอย่างแม่นยำ และมีความรอบคอบ และเป็นรายบุคคลไป 

    ก่อนทำต้องมีการซักประวัติการมีโรคประจำตัวหรือไม่ คนไข้มีภาวะเสี่ยงหรือเปล่า หรือคนไข้สูบบุหรี่ไหม ถ้าสูบก็ต้องให้งดก่อนเพราะการสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผากได้เหมือนกัน  จึงจะทำให้การฉีดไขมันลดรอยย่นบนหน้าผากนั้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และไม่มีอันตราย  การฉีดไขมัน (Fat Grafting)  เป็นเทคนิคการย้ายไขมันในร่างกาย จากที่หนึ่ง นำไปฉีดอีกที่ ในร่างกายของคนไข้ ตรงบริเวณที่ต้องการแก้ไขความบกพร่องเช่น บริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม ใต้ตา ฯลฯ  

    การฉีดไขมันสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ที่ต้องการแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก เพราะว่าเมื่อเรามีอายุมากขึ้นย่อมจะมีริ้วรอยเกิดขึ้น เพื่อเสริมโหงวเฮ้งและเพิ่มความมั่นใจ ก็สามารถไปปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนทำได้  หลังจากฉีดไขมันหน้าผากควรมีการดูแลตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ควรงดอาหารให้รับประทานตามปกติ งดการสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์   

    การฉีดไขมันหน้าผาก มีวิธีการที่ทำได้ที่แบบถาวร และแบบกึ่งถาวร  ซึ่งก็มีวิธีที่นิยมกันในปัจจุบัน 2-3 วิธี มีการฉีดเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ เป็นวิธีเสริมที่ง่ายและรวดเร็ว แต่ต้องมีการเติมอยู่บ่อยครั้งเพื่อให้ได้รูปทรงหน้าผากที่สวยงามมีโหงวเฮ้งที่ดี  หรือจะเป็นการนำไขมันตัวเองมาฉีดก็ได้โดยผ่านกระบวนการสกัดสเต็มเซลล์ แล้วนำไปสร้างไขมัน แล้วนำกลับมาฉีด ซึ่งจะได้ผลดีและมีผลข้างเคียงน้อยมาก 

     การใช้ซิลิโคนเสริมหน้าผาก จะเป็นการศัลยกรรมที่ยุ่งยากพอสมควร ต้องมีการเลือกขนาดหรือออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับใบหน้าต้องทำกับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และชำนาญมาก ๆ 

    การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) หน้าผากย่น

    การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) หน้าผากย่น เป็นการฉีดสารโบลูทินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) เข้าไปบริเวณหน้าผากที่ต้องการแก้รอยย่นทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากหรือกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นอัมพาต เมื่อเรายิ้มหรือแสดงทางสีหน้า จะทำให้กล้ามเนื้อหน้าผากและใบหน้าในส่วนนั้นก็จะไม่สามารถขยับ  ดังนั้น ผิวหนังหน้าผากจึงไม่เกิดริ้วรอยย่น  

    ฉีดไขมันหน้าผาก อันตรายไหม

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://rattinanhospital.com/

    ราคาในการฉีดไขมันหน้าผาก

    ค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาหน้าผากย่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่าปัญหานั้นมากน้อยแค่ไหน อย่างไร และขึ้นอยู่กับวิธีที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการ ฉีดไขมัน การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)  หรือการผ่าตัดเพื่อเสริมซิลิโคน และยังอยู่กับสถาบันที่เราไปใช้บริการว่า มีมาตรฐานแค่ไหน รวมไปถึงศัลยแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย 

    ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำการรักษาอาการหน้าผากย่น หรือหน้าผากไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม เราต้องมีการปรึกษาแพทย์ หรือบางทีเราอาจเข้าไปศึกษาข้อมูลจากเพจ Pantip บ้างก็ได้ เพราะในเพจนี้จะมีผู้มาแชร์ประสบการณ์ในการทำและแก้ปัญหาเรื่องความงาม อย่างหลากหลาย แต่เราต้องใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลอย่างระมัดระวัง เพราะบางทีวิธีการอย่างนั้นอาจเหมาะกับเขา แต่ไม่เหมาะสมกับเราก็ได้ 

    ทางที่ดีก็ควรปรึกษาศัลยแพทย์ด้านความงามโดยตรง ว่าในรายของเรานั้นควรแก้ปัญหาอย่างไรจึงจะตรงจุดที่เป็นปัญหา

    การดูแลหลังจากรักษาหน้าผากย่น

    การดูแลรักษาตัวเองหลังจากที่ทำการรักษาอาการหน้าผากย่น ไม่ว่าจะทำการรักษาแบบถาวรหรือกึ่งถาวรก็ตาม  ต้องมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  ควรงดการสูบบุหรี่ ถ้างดหรือเลิกไม่ได้ก็ควรปรึกษาแพทย์ ในการงดบุหรี่ เพราะสารบางชนิดในบุหรี่ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หน้าผากย่น  แม้แค่เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็ควรงดเช่นเดียวกัน  แสงแดดก็ไม่ควรได้รับแสงแดดโดยตรง เพราะรังสียูวีจากแสงแดด อาจทำให้เซลล์ของผิวเสียหายได้  ผิวจะขาดความชุ่มชื้น เป็นไปได้ว่าจะทำให้ผิวหน้าผากย่นได้ 

    ถ้าเรามีการดูแลรักษา ที่ดีด้วยการใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับผิว และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าผากย่น เราก็จะมีหน้าผากที่เต็มไปด้วยโหงวเฮ้งที่ดีและมีรูปทรงสวยงามตลอดไป

     

  • สิวที่หลัง ปัญหาหนักใจของสาวๆ รู้สาเหตุป้องกันได้ไม่ยาก

    Posted on November 25th, 2021 beauty No comments

    เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยเจอปัญหาสิวที่เกิดตามแผ่นหลังมากันบ้างแล้ว ซึ่งกว่าจะรักษาให้หายได้นั้นก็ยากเหลือเกิน แถมบางทียังทิ้งรอยดำจากสิวไว้จนไม่กล้าใส่เสื้อสายเดี่ยวโชว์หลังเลยทีเดียว โดยสิวที่หลังนั้นเกิดจากอะไร และจะสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ต้องมาดูกันเลย Read the rest of this entry »

  • เริมที่อวัยวะเพศหญิง เกิดจากอะไร ถ้าเป็นแล้วต้องรักษาอย่างไร

    Posted on November 24th, 2021 beauty No comments

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายโรค ซึ่งหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยและมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรงและมีผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะระบบประสาทก็คือเริมที่อวัยวะเพศหญิงที่เราควรมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันให้มากขึ้นเพราะเป็นโรคติดต่อที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคนเพื่อที่จะได้รู้วิธีดูแลและป้องกันตนเองไม่ให้เป็นโรคนี้ หรือหากรู้ตัวว่าเป็นแล้วก็จะได้หาทางรักษาได้ทันท่วงทีก่อนที่จะลุกลามมากขึ้น Read the rest of this entry »

  • อ้วกเป็นเลือดเกิดจากอะไร ที่นี่มีคำตอบ

    Posted on November 24th, 2021 beauty No comments

    เชื่อว่าคงมีหลาย ๆ คน ที่อาจเคยได้ยินข่าว หนุ่มใหญ่อาเจียนออกมาเป็นเลือดจำนวนมากหลังจากดื่มเหล้าขาว หลังสืบทราบมาว่าหนุ่มใหญ่รายนี้ชื่นชอบการดื่มเหล้าขาวมาเป็นเวลานานและต่อเนื่อง ซึ่งต่อมาก็เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอแนะนำรายละเอียดการอ้วกเป็นเลือดเกิดจากอะไร? อีกหนึ่งภาวะที่ส่งสัญญาณว่าร่างกายของเราอาจกำลังประสบปัญหาความผิดปกติอย่างรุนแรง Read the rest of this entry »

  • รอบรู้เกี่ยวกับอาหาร 5 หมู่ พร้อมทั้งประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    Posted on November 21st, 2021 beauty No comments

    หนึ่งในสิ่งที่จะสามารถสะท้อนถึงการรักตัวเองก็คือ การกินอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งแน่นอนว่าการกินอาหารที่มีประโยชน์นั้นย่อมไม่พ้นจากการกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ วันนี้เราจึงขอนำสิ่งน่ารู้เกี่ยวกับอาหาร 5 หมู่ พร้อมทั้งประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวันมาแชร์ให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ

    อาหาร 5 หมู่คืออะไร

    อาหาร 5 หมู่ หรือเรียกว่า The Five Food Groups คือการจัดหมวดหมู่ตามคุณค่าของสารอาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน และจะมีการแบ่งประเภทตามสารอาหารที่มีเหมือนกันออกเป็น 5 หมวดหมู่ด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย

    หมู่ที่ 1 โปรตีน

    หมู่ที่ 2 คารโบไฮเดรต

    หมู่ที่ 3 เกลือแร่

    หมู่ที่ 4 วิตามิน

    หมู่ที่ 5 ไขมัน

    หมู่ที่ 1 โปรตีนกับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    -แหล่งอาหารของโปรตีน

    ไข่ เนื้อสัตว์ นม และถั่ว

    -ประโยชน์ของโปรตีน

    ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต เสริมสร้างความแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายป่วยง่าย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อของอวัยวะ ช่วยควบคุมการทำงานของระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร และระบบการดูดซึมของร่างกาย

    -ปริมาณของโปรตีนที่จำเป็นต่อวัน

    โดยปกติร่างกายควรกินโปรตีนประมาณ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

    หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรตกับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    -แหล่งอาหารของคาร์โบไฮเดรต

    ข้าว น้ำตาล แป้ง เผือก และมัน

    -ประโยชน์ของคาร์โบไฮเดรต

    ช่วยให้พลังงานเพื่อที่ร่างกายจะสามารถนำไปใช้ทำกิจกรรมในแต่ละวันได้อย่างเพียงพอ ช่วยเผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงาน ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง มีสารอนุพันธุ์ของกลูโคสหรือกรดกลูคูโรนิก ช่วยขับสารพิษในตับให้ลดลง และช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    -ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นต่อวัน

    โดยปกติร่างกายควรกินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ในกรณีที่ลดน้ำหนักอาจกินในปริมาณที่น้อยกว่านั้น

    หมู่ที่ 3 เกลือแร่กับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    -แหล่งอาหารของเกลือแร่และแร่ธาตุ

    ผักชนิดต่างๆ เช่น ผักตำลึง ผักกาด ผักบุ้ง ผักคะน้า ฟักทอง กะหล่ำปลี หรือแตงกวา

    -ประโยชน์ของเกลือแร่และแร่ธาตุ

    ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี ป้องกันเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสที่จะเข้ามาทำลายร่างกาย ช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นได้ชัดเจน เสริมสร้างเซลล์ของระบบประสาทไขข้อ กระดูก และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี เพราะผักมีกากใยสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากลำไส้ได้ดี

    -ปริมาณของเกลือแร่และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อวัน

    โดยปกติร่างกายควรกินเกลือแร่แตกต่างไปตามแต่ละประเภท เช่น แคลเซียม 800 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 800 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 350 มิลลิกรัม ไอโอดีน 150 มิลลิกรัม ซีลีเนียม 70 มิลลิกรัม สังกะสี 15 มิลลิกรัม และเหล็ก 15 มิลลิกรัม

    หมู่ที่ 4 วิตามินกับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    -แหล่งอาหารของวิตามิน

    ผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น ส้ม กล้วย ฝรั่ง แอปเปิ้ล สับปะรด ลำไย มะละกอ และมังคุด เป็นต้น

    -ประโยชน์ของวิตามิน

    ช่วยบำรุงสายตา กระดูก เหงือก และฟัน บำรุงประสาท บำรุงผิวพรรณ ป้องกันไข้หวัด ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยชะลอวัย เสริมสร้างแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่จำเป็นต่อกระดูก ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ ช่วยสร้างลิ่มเลือด และป้องกันกระดูกเปราะ

    -ปริมาณของวิตามินที่จำเป็นต่อวัน

    โดยปกติร่างกายควรกินวิตามินในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เช่น วิตามินเอ 800 ไมโครกรัม วิตามินเค 80 ไมโครกรัม วิตามินซี 60 มิลลิกรัม วิตามินอี 10 มิลลิกรัม วิตามินดี 5 ไมโครกรัม ส่วนวิตามินบีแล้วแต่ชนิด

    หมู่ที่ 5 ไขมันกับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อวัน

    -แหล่งอาหารของไขมัน

    ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ซึ่งไขมันจากสัตว์โดยส่วนมากจะเป็นไขมันอิ่มตัว รวมทั้งไขมันที่แฝงอยู่ในเนื้อสัตว์

    -ประโยชน์ของไขมัน

    ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยสะสมไขมันที่ได้จากสารอาหารเอาไว้ใต้ผิวหนัง ซึ่งการสะสมไขมันนี้จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเมื่อร่างกายขาดพลังงาน ไขมันที่ถูกสะสมไว้ตามบริเวณต่างๆ จะถูกนำออกมาใช้ทดแทน

    -ปริมาณของไขมันที่จำเป็นต่อวัน

    โดยปกติแล้วร่างกายควรกินไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือประมาณ 5-9 ช้อนชาต่อวัน

    นอกจากทุกท่านจะต้องรอบรู้เกี่ยวกับแหล่งของสารอาหารแต่ละหมู่ รวมทั้งประโยชน์และปริมาณของสารอาหารที่จำเป็นต่อวันแล้ว อัตราส่วนการกินอาหารแต่ละหมู่ก็สำคัญเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรงนั่นเอง

  • ติดเชื้อในกระแสเลือด อาจพาร่างกายอักเสบจนถึงขั้นเสียชีวิต

    Posted on November 19th, 2021 beauty No comments

    หนึ่งในโรคที่ถือว่าน่ากลัวไม่แพ้โรคเรื้อรังอย่างมะเร็ง คือ ภาวะของการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะเพียงแค่เกิดขึ้นจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จะสามารถกระจายไปสู่อวัยวะภายในอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว ถ้าผู้ป่วยไม่รู้ตัวและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะรุนแรงขึ้นจนอาจกลายเป็นภาวะช็อกที่ทำให้การทำงานของระบบภายในล้มเหลวลงทั้งหมด  จึงถือเป็นหนึ่งในอันตรายที่อาจทำให้คุณเสียชีวิตได้ในระยะเวลาที่ค่อนข้างรวดเร็วเลยทีเดียว

    สาเหตุการติดเชื้อในกระแสเลือด

    การติดเชื้อในกระแสเลือด จะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เพราะถ้าพูดถึงการติดเชื้อแล้วจะเป็นได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อพยาธิ หรือแม้แต่สารพิษและสารเคมีต่าง ๆ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจากจุดเล็ก ๆ จะกระจายสู่จุดใหญ่ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ย่อมคุกคามชีวิตได้มากเลยทีเดียว ดังนั้นลองมาดูสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ คือ

    • สาเหตุใหญ่ของการติดเชื้อในกระแสเลือดหรือ Sepsis คือ การติดเชื้อไวรัส, ติดเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อของพยาธิ และสารเคมีต่าง ๆ โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของร่างกาย
    • การติดเชื้อในกระแสเลือด มีภาวะเป็นพิษของการติดเชื้อที่อาจเกิดจากบริเวณลำไส้และปัญหาไส้ติ่งอักเสบ รวมไปถึงการติดเชื้อภายในถุงน้ำดีและตับ
    • การติดเชื้อที่บริเวณปอด
    • การติดเชื้อที่บริเวณผิวหนังเพียงแค่จุดใดจุดหนึ่ง ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทำให้แผลขยายใหญ่ขึ้นและเชื้อจะเข้าสู่ทางผิวหนังลงสู่กระแสเลือดอย่างง่ายดาย
    • การติดเชื้อที่บริเวณทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นเลือดจำนวนมาก
    • การใช้เครื่องมือในการ Detox ที่จำเป็นต้องสวนทวาร อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้
    • เครื่องมือทางการแพทย์บางประเภท เช่น การสวนสายปัสสาวะ, การใช้สายสวนหลอดเลือด, อุปกรณ์ท่อช่วยหายใจ หรือการให้อาหารทางสายยาง อาจนำพาเชื้อเข้าสู่ร่างกายและติดเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย
    • การเกิดภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อภายในโรงพยาบาล ที่อาจมาในลักษณะของเชื้อแบคทีเรีย จนกลายเป็นการต้านยาปฏิชีวนะ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ถือว่าน่ากลัวมาก
    • ผู้ที่มีบาดแผลขนาดใหญ่หรือบาดแผลจากการถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
    • เมื่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง การติดเชื้อในกระแสเลือดจะเป็นไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาติดเชื้อ HIV หรือลูคีเมีย จึงติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
    • ผู้ที่ต้องได้รับเคมีบำบัดเป็นประจำ มีการฉีดสารสเตียรอยด์หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
    • การติดเชื้อในกระแสเลือดมักเกิดขึ้นกับเด็กและผู้สูงอายุ

    เมื่อติดเชื้อในกระแสเลือด จะมีอาการอย่างไร

    สำหรับผู้ที่กำลังกังวลว่าตนเองจะติดเชื้อในกระแสเลือดหรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบร่างกายได้แบบง่าย ๆ เพียงแค่สังเกตในช่วงเวลาที่คุณใช้ชีวิตประจำวันอยู่นั้น มีการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยใด ๆ ที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ รวมไปถึงผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุและผู้ที่ได้รับการผ่าตัด ต้องสังเกตตนเองให้ดี ซึ่งอาการส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผู้มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด คือ

    • มีอาการไข้ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจจะเป็นการพัฒนาอาการไข้จากไข้ต่ำสู่ไข้สูงใน 1 วัน
    • อาจมีอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อนเข้ามาร่วมด้วย
    • มีอาการหนาวเย็นและมือกับเท้าจะเย็นมากกว่าปกติ
    • มีอาการอึดอัดและหายใจเร็วขึ้น
    • ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ เมื่ออาการรุนแรงจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกตัวน้อยลง
    • เกิดอาการสับสน การคิดเชิงวิเคราะห์ต่าง ๆ จะผิดเพี้ยน
    • บริเวณผิวหนังจะเกิดจุดสีแดงและอาจลุกลามจนกลายเป็นผื่นที่คล้ายกับรอยช้ำ
    • การปัสสาวะจะน้อยลงกว่าเดิม
    • ถ้าอาการถึงขั้นรุนแรง ระบบเลือดจะไม่ไหลเวียน จึงทำให้เกิดภาวะช็อคจนอาจเสียชีวิตได้

    อาการที่เกิดขึ้นกับเด็กที่ติดเชื้อในกระแสเลือดจะแสดงออกมาได้ไม่ชัดเจนเท่ากับอาการของผู้ใหญ่ ดังนั้นจึงควรสังเกตให้มาก โดยผู้ปกครองจะต้องตรวจดูว่าเด็กมีอาการตัวเย็นเพียงแค่บางจุดภายในร่างกายหรือไม่ มีสีผิวออกเขียวช้ำหรือซีดจัด รวมไปถึงการเกิดจุดหรือหย่อมของผื่นที่กลายเป็นสีฟกช้ำภายในร่างกายมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ต้องดูว่ามีอาการหายใจถี่ เหนื่อยเพลียและอ่อนล้าง่าย ซึมลงเรื่อย ๆ กับรับประทานอาหารไม่ได้ร่วมด้วยหรือไม่ ยิ่งถ้ามีอาการปลุกไม่ตื่นหรือปลุกแล้วตื่นยาก มีอาการงอแงมาก และเมื่อกดลงผิวหนังแล้วผื่นไม่หายไปตามแรงกด นั่นหมายความว่าเด็กติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงควรรีบพาส่งโรงพยาบาลเพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที

    การดูแลและรักษา เมื่อเกิดติดเชื้อในกระแสเลือด

    เมื่อรู้ว่าติดเชื้อในกระแสเลือด คุณควรต้องรีบพบแพทย์ทันที เพราะการติดเชื้อจะทำให้แพทย์วินิจฉัยได้ค่อนข้างยาก จึงจำเป็นต้องตรวจหาหลายทาง เพื่อทำให้วินิจฉัยได้โดยตรงว่าติดเชื้อจากส่วนใดบ้างและได้รับการรักษาอย่างตรงจุด เช่น

    • การตรวจอาการเบื้องต้น โดยจะเป็นการซักประวัติด้านการรักษาการเจ็บป่วย ตรวจร่างกาย ตรวจความดันโลหิต และตรวจอุณหภูมิกับชีพจร รวมไปถึงการซักประวัติเพื่อหาสัญญาณของโรคในด้านอื่น ๆ ที่จะเกิดร่วมกับปัญหาติดเชื้อได้
    • การตรวจเลือดที่แพทย์จะนำเลือดไปสู่การหาเชื้อ
    • การตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจดูเชื้อแบคทีเรีย
    • การตรวจสารคัดหลั่งสำหรับผู้ที่มีบาดแผล เพื่อตรวจดูเชื้อที่ติดอยู่ภายในแผล
    • การตรวจเสมหะและน้ำมูก สำหรับผู้ที่มีอาการไอและเสมหะร่วมด้วย
    • การสแกนร่างกายและอวัยวะบางส่วนที่คาดว่าจะติดเชื้อ เพื่อตรวจดูบริเวณเนื้อเยื่อ ซึ่งการสแกนรูปภาพนั้นจะทำให้เห็นเชื้อง่ายมากขึ้น
    • การตรวจด้วยวิธีการสแกนจะมีทั้งการเอกซเรย์, การอัลตร้าซาวด์, การทำ CT Scan และการทำ MRI เพื่อทำให้ตรวจหาเชื้อได้ชัดเจนมากที่สุด
    • การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงจะต้องได้รับยาต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้ออื่น ๆ
    • การรับยาฉีดปฏิชีวนะเข้าหลอดเลือดดำ โดยจะต้องทำภายใน 6 ชั่วโมงแรกหรือเร็วกว่านี้ เพื่อลดเชื้อและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
    • การให้สารน้ำบริเวณหลอดเลือดดำ เพื่อเป็นการรักษาระดับของความดันเลือดให้มีความคงที่มากที่สุด พร้อมช่วยป้องกันไตล้มเหลวและภาวะขาดน้ำ
    • ยาเพิ่มความดันที่จะมาพร้อมกับสารน้ำ โดยจะให้ทางเส้นเลือดดำ ตัวยาจะทำให้หลอดเลือดตีบลงและเข้าไปช่วยเพิ่มความดันโลหิตให้สูงขึ้น

    การดูแลผู้ที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด จะต้องดูเรื่องของการหายใจเป็นหลักและจะดูแลตามอาการ ถ้าเกิดการติดเชื้อจากแผลต่าง ๆ หรือแผลผ่าตัด แพทย์จะทำการวินิจฉัยและตัดเนื้อเยื่อในส่วนนั้นออกทันที เพื่อเป็นการรักษาเนื้อเยื่อส่วนอื่นไม่ให้ติดเชื้อตามไปด้วย

  • พยาธิเส้นด้าย ตัวการร้ายทำลายสุขภาพ คนไทยเสี่ยงเป็นสูง

    Posted on November 15th, 2021 beauty No comments

    พยาธิเส้นด้ายเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตร้อนชื้นและมีฝนตกชก จะทำให้เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพยาธิเส้นด้ายและพยาธิปากขออย่างมาก ดังนั้นคนไทยจึงมีความเสี่ยงต่อการต้องพบกับโรคพยาธิเส้นด้ายที่อาศัยอยู่ภายในร่างกายที่แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจจะพาให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่ลง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว Read the rest of this entry »

  • เวียนหัวบ่อย เช็คด่วน! เกิดจากอะไร บรรเทาอาการได้อย่างไร

    Posted on November 14th, 2021 beauty No comments

    อาการเวียนหัวบ่อยนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อันที่จริงอาการเวียนหัวอาจจะเป็นอาการเริ่มแรกของโรคที่ร้ายแรงก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีอาการแบบนี้ไม่ควรที่จะวางใจเด็ดขาด ซึ่งเราจะพาทุกท่านไปดูกันว่าอาการเวียนหัวบ่อยๆ เกิดจากอะไร และสามารถรักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง Read the rest of this entry »

  • ลืมกินยาคุม 1 วันเป็นอะไรไหม ควรทำอย่างไรถ้าลืมกิน

    Posted on November 10th, 2021 beauty No comments

    การกินยาคุมเป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดที่ใช้กันมาก ซึ่งวิธีการกินยาคุมนั้นจะต้องกินยาต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ก็มีอยู่หลายครั้งที่สาวๆ อาจลืมกินยาคุม 1 วัน จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นอะไรไหม และถ้าลืมกินจะต้องทำอย่างไร มาดูคำตอบในบทความนี้กันค่ะ

    ลืมกินยาคุม 1 วันเป็นอะไรไหม

    Read the rest of this entry »

  • 7 อาการสังเกตด่วน คุณอาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

    Posted on November 9th, 2021 beauty No comments

    เบาหวาน เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย เบาหวานเป็นโรคที่อันตรายและใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน ดูดไขมัน ทำให้ไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้ไปใช้เป็นพลังงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจนเกิดภาวะน้ำตาลสะสมในเลือดในปริมาณที่มาก โดยคุณควรหมั่นสังเกตร่างกายเป็นประจำ หากมีอาการดังต่อไปนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอยู่ก็เป็นได้ อาการที่ว่านี้มีอะไรบ้างมาดูกันเลยดีกว่า

    โรคเบาหวาน

    Read the rest of this entry »